อันดับ : Passeriformes
วงศ์ : Pittidae
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pitta gurneyi พบนกแต้วแล้วท้องดำครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2418-2420 ที่จังหวัดระนอง
โดยนาย W. Davisionและต่อมาในปี
พ.ศ. 2422 นาย Home ประกาศว่าพบนกแต้วแล้วท้องดำที่จังหวัดภูเก็ต
หลังจากนั้นจึงมีการเก็บตัวอย่างนกแต้วแล้วท้องดำมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งปี
พ.ศ.2528 ได้มีการแถลงข่าวจากสถานีโทรทัศน์ BBC ว่า
“มีความเป็นไปได้ที่ว่านกแต้วแล้วท้องดำได้สูญพันธุ์ไปจากโลกแล้ว”
ทำให้นกแต้วแล้วท้องดำได้รับการจัดสถานภาพจาก IUCN Red Data Book ว่าเป็นนกที่อยู่ในสภาวะวิกฤติและยังไม่ทราบสถานภาพที่แท้จริง
ปัจจุบันนกแต้วแล้วถูกจัดเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์อันดับ 7 ของโลก
จากบัญชีสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ 6,000 ชนิด
ลักษณะทั่วไป
(Black-breasted Pitta) |
การแพร่กระจาย
ทั่วโลกพบเพียง 2 พื้นที่ คือบริเวณ
ทางภาคใต้ของประเทศไทยและเทือกเขาตะนาวศรีตอนใต้ประเทศพม่า
ปัจจุบันในเมืองไทยพบการกระจายของนกบริเวณที่ราบต่ำเขานอจู้จี้
(เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประบางคราม กระบี่) โดยใน พ.ศ. 2547 พบ 20 คู่
ชีววิทยา
เป็นสัตว์ที่หากินบนพื้นดิน
โดยกระโดอย่างคล่องแคล่วและใช้ปากจิกลงบนผิวหน้าดินและมีการพลิกใบไม้เพื่อหาอาหารนกชนิดนี้มีการร้องจับคู่ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงตุลาคม
โดยปกติจะร้อง ทริบ-ทริบ หรือวิบ-วิบ
ตัวผู้มักเป็นฝ่ายร้อง
เมื่อมีอันตรายเข้าทาใกล้รัศมีตัวผู้และตัวเมียจะร้องสื่อสารกัน ฮุ-ฮุก ในระยะไม่เกิน 10-15 เมตร นกแต้วแล้วทองดำมีการสร้างรังกลมคล้ายลูกบอล
โดยจากเศษกิ่งไม้มักทำรังบนต้นไม้ที่มีหนามแหลมคม ออกไข่เฉลี่ย 3-4 ฟอง/รัง ฟักไข่ประมาณ 14-15 วัน
ทั้งตัวผู้และตัวเมียช่วยกันฟักในช่วงกลางวัน ส่วนกลางคืนตัวเมียจะฟัก
ซึ่งแม่นกจะกกอยู่ประมาณ 5 วัน เพียงแต่จะนำเอาอาหารมาให้ เมื่อขาเริ่มแข็งจะยืดตัวออกมาที่ปากรังโดยแม่นกและพ่อนกจะเลี้ยงลูกประมาณ
14-16 วัน แต่ละตัวจะออกจากรังไม่พร้อมกัน
นิเวศวิทยา
พบอาศัยตามป่าดิบชื้นที่ราบต่ำ มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 70-150 เมตร
สภาพป่ามีแดดส่องพื้นรำไร อาณาเขตครอบครองของนกแต้วแล้วคาดว่าน่าจะมีความสัมพันธ์กับปริมาณน้ำในรอบปี
สถานภาพ
เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธ์
ปัจจัยคุกคาม
พื้นที่อยู่อาศัยถูกบุกรุกทำลาย ทำให้กระจายเป็นหย่อมๆ
อัตราความสำเร็จในการสืบพันธุ์ตามธรรมชาติต่ำ
เนื่องจากมีศัตรูทางธรรมและยังพบปัญหาทางสภาพอากาศ
และมีชาวบ้านมาใช้ประโยชน์พื้นที่ในการหาของป่า
นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวหรือนักดูนกบางส่วนรบกวนซึ่งเป็นผลกระทบต่อการดำรงชีวิต
Cr.หนังสือสัตว์ป่าสงวนในประเทศไทย
Cr.หนังสือสัตว์ป่าสงวนในประเทศไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น