อันดับ : Passeriformes
วงศ์ : Pittidae

ลักษณะทั่วไป
![]() |
(Black-breasted Pitta) |
การแพร่กระจาย
ทั่วโลกพบเพียง 2 พื้นที่ คือบริเวณ
ทางภาคใต้ของประเทศไทยและเทือกเขาตะนาวศรีตอนใต้ประเทศพม่า
ปัจจุบันในเมืองไทยพบการกระจายของนกบริเวณที่ราบต่ำเขานอจู้จี้
(เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประบางคราม กระบี่) โดยใน พ.ศ. 2547 พบ 20 คู่
ชีววิทยา
เป็นสัตว์ที่หากินบนพื้นดิน
โดยกระโดอย่างคล่องแคล่วและใช้ปากจิกลงบนผิวหน้าดินและมีการพลิกใบไม้เพื่อหาอาหารนกชนิดนี้มีการร้องจับคู่ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงตุลาคม
โดยปกติจะร้อง ทริบ-ทริบ หรือวิบ-วิบ
ตัวผู้มักเป็นฝ่ายร้อง
เมื่อมีอันตรายเข้าทาใกล้รัศมีตัวผู้และตัวเมียจะร้องสื่อสารกัน ฮุ-ฮุก ในระยะไม่เกิน 10-15 เมตร นกแต้วแล้วทองดำมีการสร้างรังกลมคล้ายลูกบอล
โดยจากเศษกิ่งไม้มักทำรังบนต้นไม้ที่มีหนามแหลมคม ออกไข่เฉลี่ย 3-4 ฟอง/รัง ฟักไข่ประมาณ 14-15 วัน
ทั้งตัวผู้และตัวเมียช่วยกันฟักในช่วงกลางวัน ส่วนกลางคืนตัวเมียจะฟัก
ซึ่งแม่นกจะกกอยู่ประมาณ 5 วัน เพียงแต่จะนำเอาอาหารมาให้ เมื่อขาเริ่มแข็งจะยืดตัวออกมาที่ปากรังโดยแม่นกและพ่อนกจะเลี้ยงลูกประมาณ
14-16 วัน แต่ละตัวจะออกจากรังไม่พร้อมกัน
นิเวศวิทยา
พบอาศัยตามป่าดิบชื้นที่ราบต่ำ มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 70-150 เมตร
สภาพป่ามีแดดส่องพื้นรำไร อาณาเขตครอบครองของนกแต้วแล้วคาดว่าน่าจะมีความสัมพันธ์กับปริมาณน้ำในรอบปี
สถานภาพ
เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธ์
ปัจจัยคุกคาม
พื้นที่อยู่อาศัยถูกบุกรุกทำลาย ทำให้กระจายเป็นหย่อมๆ
อัตราความสำเร็จในการสืบพันธุ์ตามธรรมชาติต่ำ
เนื่องจากมีศัตรูทางธรรมและยังพบปัญหาทางสภาพอากาศ
และมีชาวบ้านมาใช้ประโยชน์พื้นที่ในการหาของป่า
นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวหรือนักดูนกบางส่วนรบกวนซึ่งเป็นผลกระทบต่อการดำรงชีวิต
Cr.หนังสือสัตว์ป่าสงวนในประเทศไทย
Cr.หนังสือสัตว์ป่าสงวนในประเทศไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น