กูปรีหรือโคไพร

อันดับ Artiodactyla
วงศ์ Bovidae
(Kouprey or Kouproh)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Bos sauvell
ลักษณะทั่วไป
กูปรีจัดอยู่ในพวกวัวป่าแท้ สกุลเดียวกับวัวแดงและกระทิง ด้วยมีลักษณะเหมือนกันคือ ตัวโต โคนขาใหญ่ปลายขาเรียว หางยาว ปลายหางเป็นพู่ขน ไม่มีต่อมเปิดระหว่างกีบนิ้ว ใต้ตา และระหว่างขาหนีบ ขาหลังมีขา 2 ข้าง บนหัวทั้งตัวผู้ตัวเมีย เป็นเขากลวงแบบ Horn กูปรีเป็นสัตว์กีบคู่ และเป็นสัตว์เคี้ยวเอื้องที่กินพืชเป็นอาหารหลักอย่างแท้จริง   รูปร่างของกูปรี มีหนอกหลังเป็นสันกล้ามเนื้อบางๆ ไม่โหนกหนาอย่างหนอกหลังของกระทิง มีเหนียงคอเป็นแผ่นหนังห้อยยานอยู่ใต้คอ ดั้งจมูกบานใหญ่มีรอยเป็นบั้งๆตามขวางชัดเจน รูจมูกกว้างเป็นรูปเสี้ยววงเดือน ใบหูแคบสั้น
ไม่มีสันกระบังที่หน้าผากอย่างกระทิงและวัวแดง เป็นวัวป่าที่มีหางยาวที่สุดในประเทศไทย น้ำหนักตัวประมาณ 700-900 กิโลกรัม ลักษณะเด่นของกูปรี คือเขาของมันละม้ายกับเขาของจามรี ลักษณะเป็นเขาบิดอย่างเห็นได้ชัดเจน ทั้งของตัวผู้และตัวเมีย เขาของกูปรีตัวผู้มีลำเขาใหญ่มาก โคนเขาใหญ่และโค้งนูนออก กูปรีตัวเมียมีรอยหยักตามขวางเรียกว่า พาลี

การแพร่กระจาย
พบอยู่แถบภาคใต้ของลาว ภาคเหนือและภาคตะวันตกของกัมพูชา ภาคตะวันตกของเวียดนามและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในประเทศไทยเคยมีกูปรีอาศัยอยู่ตามป่าแถบเทือกเขาพนมดงรักบริเวณจังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี และนครราชสีมา ซึ่งเป็นจังหวัดชายแดนติดกับกัมพูชา ต่อมาได้ลดน้อยลง

ชีววิทยา
นิสัยของกูปรีไม่เหมือนวัวแดงและกระทิง คือชอบเอาเขาขวิดกับต้นไม้ กิ่งไม้ ตามเส้นทางเดินผ่านหรือขวิดเนินขอบแอ่งดินโป่ง หรือแอ่งน้ำ หรือขวิดคุ้ยดินตามห้อยเพื่อหาน้ำหรือดินโป่งกินเป็นประจำ ทำให้เปลือกปลายเขาของกูปรีตัวผู้แตกออกเป็นพู่คล้ายไม้กวาดและยังทำให้พรานสามารถติดตามแกะรอยกูปรีแยกจากวัวแดงและกระทิงได้จากรอยขวิด
ฤดูผสมพันธุ์อยู่ในช่วงเดือนเมษายน ตั้งท้องประมาณ 9 เดือน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว

นิเวศวิทยา
กูปรีชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ 30-40 ตัว มีตัวที่อายุมากที่สุดเป็นผู้นำฝูง มันอยู่ตามป่าโปร่ง ได้แก่ ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ทุ่งหญ้า ป่าทุ่ง และบริเวณที่มีดินโป่ง และหนองน้ำอุดมสมบูรณ์

สถานภาพ
 ในอดีตเชื่อว่าประชากรของกูปรีมีเหลืออยู่น้อยกว่า 250 ตัว อยู่ในภาวะถูกคุกคามและลดจำนวนลงไปเรื่อยๆ เชื่อว่าประชากรกระจายตัวอยู่ในกัมพูชา ลาว ไทย และเวียดนามเท่านั้น ในหลังฐานที่ปรากฏ

ปัจจัยคุกคาม
 สงครามอินโดจีนทำให้ประชากรของกูปรี ลดลงเป็นจำนวนมาก ประกอบกับการถูกรบกวนจากกิจกรรมต่างๆของมนุษย์ การทำไม้ การทำเกษตรกรรมเหล่านี้ก่อให้เกิดการสูญหายของถิ่นที่อยู่อาศัยของกูปรี  การล่าเพื่อการยังชีพและการค้า กะโหลก เขา และเนื้อ  คนพื้นเมืองชอบล่ากูปรีเพราะเนื้ออร่อย ตัวใหญ่ หนังและเขาราคาดี และยังเชื่อว่ากระดูกที่หนอกหลังของมันนำมาบดละเอียดผสมเหล้าแล้วร่างกายจะแข็งแรง และอบอุ่น

Cr.หนังสือสัตว์ป่าสงวนในประเทศไทย



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น